ผลงานวิจัย..สะท้อนให้เห็นทำไมมีพนักงานจำนวนไม่มากสำเร็จระดับสูงในองค์กร ถ้าคุณมีงานทำไม่เคยขาดมือ...แสดงว่าเจ้านายของคุณทำงานหนักมาก -- Everything you do below the surface determines what they see on the surface. - สิ่งที่คุณทำโดยที่ผู้คนมองไม่เห็นแต่ผลของมันจะประจักษ์ต่อความรู้สึกของพวกเขาเอง
ถ้าคุณทำงานเป็นพนักงานของบริษัท เรื่องสำคัญมากๆที่คุณต้องรู้มากกว่าว่าเงินเดือนของคุณจะขึ้นกี่เปอร์เซ็น คือ..วิสัยทัศน์ของผู้นำองค์กร และยุทธศาสตร์ในการทำงานที่วางไว้
เด็กจบใหม่..มองหางานทำ สิ่งแรกที่พวกเขามองหาคือ จำนวนเงินเงินเดือนค่าตอบแทน ..ไม่ผิดหรอกเพราะพวกเขายังไม่ได้เรียนรู้เรื่องของการเติบโต..ภาพให้หัวของพวกเขาจึงติดกับคำว่าค่าตอบแทนเท่านั้น --
บริษัทที่จ้างเด็กจบใหม่เข้าทำงานด้วยเงินเดือนที่สูงต้องพิจารณาจากสิ่งใดบ้าง
คุณวุฒิ- เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับนักศึกษาไทยที่ต้องเพียรพยายามเพื่อให้จบปริญญาตรี ..และเป็นเรื่องน่าเศร้าที่องค์กรทั้งหลายตั้งเป้าหมายรับคนว่าต้องจบปริญญาตรีขึ้นไป ถ้าคุณอ่านข่าวต่างประเทศจะพบว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ว่า Google / Facebook หรืออื่นๆแทบไม่ใส่ประเด็นประกาศนียบัตรใดๆเลย เพราะพวกเขารู้ว่ามีคนที่เก่งโดยไม่ต้องพึ่งใบประกาศมากมาย
ความสามารถพิเศษ- เรื่องนี้มาเล่ากันแบบขำๆก็หลายเรื่อง กรอกใบสมัครงานต้องกรอกความสามารถพิเศษเข้าไป ต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่าคุณมีความสามารถพิเศษที่เกี่ยวข้องกับงานอย่างไร ภาษาอังกฤษไม่ใช่ความสามารถพิเศษค่ะเป็นสิ่งที่พนักงานต้องมี ความสามารถที่พิเศษนั้นคือสิ่งที่คุณมีเหนือกว่าคนอื่น เฉพาะทางและเกี่ยวข้องกับการทำงาน ยกตัวอย่างการพูดในที่ชุมชน สิ่งนี้ถือว่าเป็นความสามารถพิเศษ เพราะไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้
ทัศนคติ- บางองค์กรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่าเกรดเฉลี่ยของผู้สมัครงานเพราะทักษะสร้างได้แต่ทัศนคติที่ดีสร้างยาก บริษัทสามารถรู้ทัศนคติของผู่สมัครได้ง่ายมาก เช่นติดตาม Social Media ของเขา หรือการเขียนเรียงความสักหนึ่งเรื่องจะเห็นอะไรหลายอย่างในนั้นไม่ว่าจะเป็น การวางแผนการเขียนคือเขาคิดแบบมีระบบ ลายมือการเขียนหรือการเลือกใช้คำคือความใส่ใจและสมาธิ ความคิดและการหาข้อมูลต่อหัวข้อที่เขาเขียน นี่คือเหตุผลว่าทำไมองค์กรใหญ่ต้องให้ผู้สมัครเขียน Essay / Selection Criteria ซึ่งเด็กไทยยังไม่ค่อยก้าวไปตรงนั้น และสถาบันการศึกษาของไทยก็ไม่ให้น้ำหนักอย่างเพียงพอ
--
เมื่อคุณเข้าไปทำงานในบริษัท...คุณก็มีหน้าที่ทำงานในส่วนที่ได้รับการสั่งการ ถ้าคุณคิดสักนิดทำไมงานมีเข้ามาไม่ขาดสายและมีเรื่องใหม่ๆให้ทำและศึกษาตลอด องค์กรที่จะเติบโตจะต้องมีผลิตภัณฑ์และบริการที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้คนที่หลากหลาย องค์กรนั้นต้องชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองทำเรียกง่ายๆว่ามี DNA ของตัวเอง และแสดงออกให้ผู้คนเห็นอย่างชัดเจนว่าเขาคือผู้นำในธุรกิจนั้น ..ใครคือคนที่สร้างมุมมองและผลิตภัณฑ์เหล่าน้ันล่ะ ...ถ้าคุณคิดมากๆ คุณจะไล่ลำดับจนเห็น
ผู้บริหารที่เก่งนั้น ...ต้องสร้างงาน สร้างรายได้ แก้ปัญหา และมองเห็นอนาคต ถ้าคุณมีหัวหน้าที่มัวแต่ทำงานเดิมไม่เคยมีเรื่องใหม่ให้คุณได้รับรู้หรือหน้าที่ใหม่ให้คุณทำ...เตรียมตัวกลายเป็นคนเฉื่อยชาและล้าหลังได้เลย -- องค์กรที่ดี...ต้องเปิดโอกาส สร้างโอกาส ให้ความรู้แก่พนักงานนี่ต่างหากคือสิ่งที่น้องๆควรมองหามากกว่าจำนวนเงินค่าตอบแทน มีผลงานวิจัยที่น่าสนใจของ Harvard Business Review :58% of people trust strangers more than they trust their boss
58 เปอร์เซ็นของพนักงานจะเชื่อบุคคลภายนอกมากกว่าเจ้านายของตัวเอง นี่อาจเป็นคำตอบว่าทำไมมีพนักงานอีกเพียง 32 เปอร์เซ็นที่ประสบความสำเร็จในการทำงานกับเจ้านายของเขา จาก 32 % จะเหลืออีกจำนวนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้นเพราะเขามั่นใจ เชื่อใจ เข้าใจ ในสิ่งที่เจ้านายของเขาทำมากกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่น -- นี่คือเหตุผลที่พนักงานบางคนไม่เติบโตและไปต่อไม่ได้ในองค์กรนั้น และพวกเขาก็จะแสวงหาที่ทำงานใหม่ เจ้านายใหม่ที่พวกเขาจะเชื่อใจและเชื่อมั่นไปเรื่อยๆ --
ทุกคนเกิดมาอยากเป็นผู้นำ แต่มีไม่กี่คน..ที่จะกล้าหาญและก้าวขึ้นมาเดินนำหน้าคนอื่นได้ คุณสมบัติของผู้นำสามประการ กล้าหาญ เด็ดขาด และ เปิดกว้าง -- สำรวจหัวหน้าของคุณ หรือหากคุณเป็นหัวหน้าของใครก็สำรวจตัวเอง
ในฐานะพนักงาน- คุณทุ่มเทและเชื่อมั่นในองค์กรมากแค่ไหน ถ้าไม่รู้สักเชื่อมั่นก็ขอให้ก้าวออกไป หาที่อื่นที่คุณจะเชื่อมั่นมากกว่าซึ่งนั่นจะดีกับตัวเอง
ในฐานะหัวหน้า- คุณสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างโอกาส และความมั่นคงกับพนักงานได้มากแค่ไหน ถ้าคุณยังทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้คุณต้องพยายามให้หนักมากขึ้น เรียนรู้มากขึ้น ลงมือทำมากขึ้น
--
แบ่งปันความรู้เท่ากับแบ่งปันโอกาส สิพิม พิวัธธงไชย
Senior Education Consult
ออสเตรเลียเราเชี่ยวชาญ
อยากเรียนนอกให้บอกเรา
Comments